หากพูดถึงเรื่องของสุขภาพดวงตา จากการสำรวจข้อมูลพบว่ามีหลาย ๆ ปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่หลายคนกำลังประสบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาการตาแห้งและอาการตาเมื่อยล้า โดยสถิติแล้วจะเกิดขึ้นถึง 95% ของคนที่จ้องหน้าจอนาน ๆ และที่เจอได้บ่อยไม่แพ้กันก็คือการมองเห็นภาพไม่ชัดหรือภาพเบลออยู่ที่ประมาณ 78%แต่อันตรายมากขึ้นมาในอีกระดับนึงนั่นก็คือปัญหาวุ้นในตาเสื่อมที่มี อาการมองเห็นหยากไย่ลอยไปลอยมา และปัญหาสุดท้ายก็คือเป็นปัญหาหาของโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งโรคนี้อันตรายมากตรงที่ว่าสุดท้ายแล้ว อาจทำให้คุณให้ตาบอดสูญเสียการมองเห็นไปตลอดการ
โรคจอประสาทตาเสื่อมเกิดขึ้นได้ยังไง?
จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้าน Anti-aging (เวชศาสตร์แห่งการชะลอวัย) ได้ข้อมูลมาว่า สาเหตุของโรคจอประสาทเสื่อม ปัจจัยหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ เนื่องจากแสงจากอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร ไม่ว่าจะ Tablet Smartphone Notebook นั้น ล้วนเป็นกลุ่มแสงที่เรียกว่าแสงสีฟ้า หรือ blue light ซึ่งมีงานศึกษาวิจัยชัดเจนว่า แสงเหล่านี้มีผลต่อภาวะ Macular Degeneration หรือ ภาวะจอประสาทตาเสื่อม ความน่ากลัวคือ แสงสีฟ้านี้จะเข้าไปทำลายส่วนเนื้อเยื่อที่รับแสงสีของจอประสาทตา ซึ่งเนื้อเยื่อเหล่านี้เมื่อถูกทำลายแล้วจะไม่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้เหมือนเนื้อเยื่อส่วนอื่นของร่างกาย เรียกว่าตายแล้วตายเลย ทำให้เกิดการทำลายอย่างถาวร นานวันเข้า จึงเกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อมในอดีตเรามักกล่าวถึงภาวะจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบัน ภาวะนี้กลับเกิดได้เร็วขึ้นในวัยผู้ใหญ่ และไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ อาจจะเกิดกับคนที่อายุน้อยก็เป็นได้
จอประสาทตาเสื่อม คือ ภาวะที่นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น ซึ่งพบได้มากในผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป มีสาเหตุจากจุดรับภาพตรงกลางของจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งโรคจอประสาทตาเสื่อมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและประเภท
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
จอประสาทตาเสื่อมชนิดแห้ง เกิดจากเซลล์รับแสงในจุดรับภาพเริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ ตามวัยที่เพิ่มขึ้น อาจมีของเสียสะสมอยู่ในจอประสาทตาซึ่งเรียกว่าดรูเซ่น และเซลล์รับแสงในจุดรับภาพมีจำนวนน้อยลง การมองเห็นบริเวณกลางภาพแย่ลง ทำให้ต้องใช้แสงสว่างมากกว่าปกติเมื่อต้องอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมระยะใกล้จอประสาทเสื่อมชนิดเปียก เส้นเลือดฝอยเกิดใหม่ใต้จุดรับภาพขยายจำนวนมากขึ้น ถ้าเส้นเลือดฝอยก่อตัวผิดตำแหน่ง ทำให้ส่งผลเสียมากกว่าผลดีเพราะของเหลวในเส้นเลือดจะไหลซึมเข้าตา และทำให้ ประสิทธิภาพการทำงานของบริเวณจุดรับภาพลดลง
จอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) คือโรคที่เกิดจากจอประสาทตาในลูกตาเสื่อมสภาพ จนไม่สามารถรับภาพได้ดีเท่าเดิม โรคจอประสาทตาเสื่อมนี้จะทำให้การมองเห็นแย่ลงเรื่อยๆ มองภาพบิดเบี้ยว มองเห็นสีได้น้อยลง การมองเห็นช่วงกลางภาพหายไป เมื่อถึงจุดหนึ่งจะสูญเสียการมองเห็นส่วนใหญ่ไปในที่สุดจอประสาทตาเสื่อมมักจะเกิดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่ของโรคมาจากความเสื่อมของอวัยวะตามอายุ บางครั้งจึงเรียกโรคจอประสาทตาเสื่อมที่มักเกิดในผู้สูงอายุว่า Age – Related Macular Degeneration หรือที่เรียกว่า AMD นั่นเองผู้ป่วยโรคนี้มักรู้ตัวช้า เนื่องจากในผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการของโรคจะค่อยๆเกิด บางครั้งก็เกิดขึ้นกับดวงตาเพียงข้าง เมื่อผู้ป่วยใช้ดวงตาสองข้างในการมองจึงไม่ทราบว่าภาพการมองเห็นของตนกำลังผิดเพี้ยนไป